ภาพการแข่งขัน | วีดีโอคลิป
สนาม รีบ็อค สเตเดี้ยม, อังกฤษ
ผู้ชมในสนาม 27,229 คน
รายการ พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ
เวลา 21.00 น. วันเสาร์ที่ 28 ตุลาคม 2549
ผู้ตัดสิน ร็อบ สไตล์ส
ด้วยลูกแฮตทริกของเวย์น รูนี่ย์ และอีก 1 ประตูจากคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ช่วยให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกไปเอาชนะโบลตัน ได้ในรีบอค สเตเดี้ยม 0 – 4 และทำให้ทีมของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยังคงรักษาตำแหน่งจ่าฝูงได้ต่อไป
หลังจากที่ก่อนหน้านี้เชลซีเพิ่งเก็บชัยชนะเหนือเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด และเก็บ 3 แต้มขึ้นนำเป็นจ่าฝูง แต่ไม่กี่ชั่วโมงถัดมาทีมปีศาจแดงก็กลับขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงต่อ ด้วยคะแนนที่เท่ากันแต่มีประตูได้เสียดีกว่าทีมของมูรินโญ่
รูนี่ย์ ต้องการยิงประตูให้ได้ในนัดนี้เพื่อเป็นของขวัญวันเกิดย้อนหลังให้ตัวเอง และเขาก็ทำได้ถึง 3 ประตู ส่วนโรนัลโด้ ก็ได้รับลูกเปิดที่ใจกว้างจากหลุยส์ ซาฮา และยิงเข้าประตูไปโล่งๆ อย่างง่ายดาย
เริ่มเกมทีมปีศาจแดงใช้ตัวผู้เล่นที่แตกต่างจากในวันพุธที่ผ่านมาอย่างสิ้นเชิง โดยคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้กลับมาลงเล่นหลังจากไม่สบายในอาทิตย์ที่แล้ว และทำให้ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ ต้องนั่งในม้านั่งสำรอง ส่วนผู้เล่นตำแหน่งอื่นๆ ใช้ตัวผู้เล่นหลักทั้งสิ้น ซึ่งทีมปีศาจแดงตั้งใจอย่างแน่วแน่ที่จะมาเก็บ 3 คะแนนในนัดนี้
เริ่มเกมทีมปีศาจแดงไม่รอช้า ตั้งหน้าตั้งตาบุกอย่างเอาจริงเอาจังเพียงนาทีที่ 3 ไรอัน กิ๊กส์ ก็ได้โอกาสยิงแต่หลุดออกนอกกรอบไป จากนั้นนาทีที่ 5 ปาทริซ เอฟร่า ก็ได้ยิงจากกรอบเขตโทษ แต่ ยุสซี่ ยัสเคไลเน่น ก็ป้องกันไว้ได้ นาทีที่ 9 หลุยส์ ซาฮา ได้ยิงจากฝั่งซ้ายแต่ก็ อับดุลลาเย่ เมอิเต้ โหม่งออกจากเส้นประตู
จากการบุกอย่างต่อเนื่องก็ทำให้แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ประตูแรก ในนาทีที่ 10 จากลูกเปิดของไมเคิล คาร์ริค ผ่านแนวรับของโบลตัน ไปยังรูนี่ย์ และเขาก็ยิงด้วยเท้าซ้ายโดยไม่ต้องจับบอล บอลผ่านมือผู้รักษาประตูเข้าไปอย่างสวยงาม แมนฯ ยูไนเต็ด ขึ้นนำ 0 – 1
หลังจากยิงประตูได้ก็ดูเหมือนว่าจะเพิ่มความมั่นใจให้กับรูนี่ย์ มากขึ้นและลดความกดดันและนั่นก็ทำให้แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ประตูที่ 2 หลังจากประตูแรกเพียง 5 นาที จากลูกเปิดจากฝั่งขวาโดยแกรี่ เนวิลล์ ไปยังรูนี่ย์ และเขาจับบอลลงพื้นก่อนจะยิงด้วยเท้าขวาเข้าประตูไป แมนฯ ยูไนเต็ด ขึ้นนำ 0 – 2
ในนาทีที่ 23 โบลตันได้บุกบ้าง เมื่อแกรี่ สปีด ได้ยิงด้วยเท้าซ้าย แต่บอลก็หลุดออกนอกกรอบไป
จากนั้น ไรอัน กิ๊กส์, หลุยส์ ซาฮา และคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ก็ได้โอกาสยิงคนละครั้ง แต่บอลก็หลุดออกนอกกรอบไปอย่างน่าเสียดาย
จากนั้น ทีมเจ้าบ้านก็ได้โอกาสบุกอีกครั้ง โดยทัล เบน ฮาอิม ได้ยิงจากระยะ 20 หลา แต่หลุดออกนอกกรอบไป และในนาทีที่ 38 เอล ฮัดจิ ดิยุฟ เปิดบอลเข้ากลาง และอับดุลลาเย่ ฟาเย ได้โหม่งจากกลางประตู แต่บอลก็ข้ามคาน
นาทีที่ 41 ไรอัน กิ๊กส์ ได้ยิงแต่ยุสซี่ ยัสเคไลเน่น ก็ป้องกันไว้ได้ ช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก โบลตันได้บุก จากจังหวะที่ปาทริซ เอฟร่า ทำแฮนด์บอลและโบลตันได้ลูกฟรีคิก แกรี่ สปีด เปิดด้วยเท้าซ้ายเข้ามากลางประตูแต่เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ก็ชกบอลออกไปได้ หมดครึ่งแรกยังทำอะไรเพิ่มไม่ได้แมนฯ ยูไนเต็ด นำอยู่ 0 – 2
จากประตูที่นำอยู่ 2 ลูก ในครึ่งหลังแมนฯ ยูไนเต็ด จึงไม่เน้นเกมบุก ทำให้โบลตันมีโอกาสครองบอลและทำเกมมากขึ้น แต่การบุกของโบลตันก็ถูกขัดขวางทุกครั้งด้วยฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมของเนมานย่า วิดิช และจังหวะที่โบลตันได้โอกาสอย่างชัดเจนก็มีเพียงจังหวะที่ คัมโป ได้ยิง แต่ฟาน เดอร์ ซาร์ ก็ป้องกันไว้ได้ด้วยเท้า
จากนั้นทีมเจ้าบ้านก็ครองบอลและบุกอย่างต่อเนื่องแต่ยังไม่สามารถผ่านแนวรับของแมนฯ ยูไนเต็ด ไปได้ จนกระทั่งในนาทีที่ 73 แมนฯ ยูไนเต็ด ก็นำห่าง จากความผิดพลาดของกองหลังโบลตันที่ลื่นล้ม พลาดการประกบซาฮา ทำให้เขารับบอลจากคาร์ริค ได้และเลี้ยงไปหน้าประตู ก่อนที่จะเปิดบอลด้วยความใจกว้างให้กับโรนัลโด้ ที่วิ่งมาหน้าประตู ยิงเข้าประตูไปแมนฯ ยูไนเต็ด ขึ้นนำ 0 – 3
แม้ว่าเกมจะขาดแล้ว แต่ในช่วงนาทีสุดท้ายรูนี่ย์ ก็ยังยิงประตูเพิ่มให้กับแมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อเฟล็ตเชอร์ ซึ่งถูกเปลี่ยนลงมาเล่นในช่วง 15 นาทีสุดท้ายผ่านบอลมาให้รูนี่ย์ และเขาก็ยิงผ่านมือยัสเคไลเน่น เข้าประตูไปเป็นแฮตทริกของเขาในวันนี้และเป็นประตูที่ 4 ในแมนฯ ยูไนเต็ด จบเกมแมนฯ ยูไนเต็ด เอาชนะโบลตัน ไป 0 – 4
ก่อนเริ่มเกมโบลตัน ไม่เสียประตูในบ้านเลยในฤดูกาลนี้ แต่ก็ต้องเสียสถิติไปเพราะ 4 ประตูของแมนฯ ยูไนเต็ด ส่วนแมนฯ ยูไนเต็ด ก็ยังคงรักษาสถิติไม่แพ้ทีมใดในการเล่นนอกบ้าน และเป็นทีมเดียวในพรีเมียร์ชิพขณะนี้ที่ยังไม่แพ้นอกบ้านเลย (รีพอร์ตโดย โอปอล)
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
โบลตัน วันเดอร์เรอร์ส
ยุสซี่ ยัสเคไลเน่น 22
นิคกี้ ฮันท์ 2
อับดุลลาเย่ เมอิเต้ 5
ทัล เบน ฮาอิม 26 ( น. 87)
อับดุลลาเย่ ฟาเย 25
สเตลิออส แยนนาโคปูลอส 7
อิบาน คัมโป 8
แกรี่ สปีด 6
เอล ฮัดจิ ดิยุฟ 21
เควิน เดวี่ส์ 14 ( น. 53)
นิโคลาส อเนลก้า 39
สำรอง
เอียน วอล์คเกอร์ 12
ไอแดน ตัล 23 น. 83 สเตลิออส แยนนาโคปูลอส 7
เฮนริก พีเดอร์เซ่น 9 น. 69 นิคกี้ ฮันท์ 2
ริคาร์โด้ วัซ เต 20
โยฮันน์ สมิธ 42 น. 85 เควิน เดวี่ส์ 14
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ 1
แกรี่ เนวิลล์ 2
ริโอ เฟอร์ดินานด์ 5
เนมานย่า วิดิช 15
ปาทริซ เอฟร่า 3
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 7 ( น. 82)
ไมเคิล คาร์ริค 16
พอล สโคลส์ 18 ( น. 77)
ไรอัน กิ๊กส์ 11
หลุยส์ ซาฮา 9
เวย์น รูนี่ย์ 8 ( น. 10, 16, 89)
สำรอง
โทมัสซ์ คุสซ์แซค 29
กาเบรียล ไฮน์เซ่ 4 น. 61 ปาทริซ เอฟร่า 3
จอห์น โอเชีย 22 ( น. 84) น. 82 หลุยส์ ซาฮา 9
ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ 24 น. 83 ไรอัน กิ๊กส์ 11
โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ 20
สถิติของเกม
โบลตัน วันเดอร์เรอร์ส ประตู 0, ยิงตรงกรอบ 2, ยิงหลุดกรอบ 5, โดนบล็อค 1, เตะมุม 7, ฟาวล์ 18, ล้ำหน้า 1, ใบเหลือง 2, การครองบอล 43%
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประตู 4, ยิงตรงกรอบ 10, ยิงหลุดกรอบ 5, เตะมุม 2, ฟาวล์ 13, ล้ำหน้า 1, ใบเหลือง 2, การครองบอล 57%
คะแนนความสามารถ
โบลตัน วันเดอร์เรอร์ส ยุสซี่ ยัสเคไลเน่น 7, นิคกี้ ฮันท์ 5, อับดุลลาเย่ เมอิเต้ 5, ทัล เบน ฮาอิม 6, อับดุลลาเย่ ฟาเย 5, สเตลิออส แยนนาโคปูลอส 4, อิบาน คัมโป 6, แกรี่ สปีด 5, เอล ฮัดจิ ดิยุฟ 6, เควิน เดวี่ส์ 5, นิโคลาส อเนลก้า 6, ไอแดน ตัล (สำรอง) 5, เฮนริก พีเดอร์เซ่น (สำรอง) 5, โยฮันน์ สมิธ (สำรอง) 5
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ 6, แกรี่ เนวิลล์ 7, ริโอ เฟอร์ดินานด์ 7, เนมานย่า วิดิช 8, ปาทริซ เอฟร่า 7, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 6, ไมเคิล คาร์ริค 8, พอล สโคลส์ 7, ไรอัน กิ๊กส์ 7, หลุยส์ ซาฮา 7, เวย์น รูนี่ย์ 9, กาเบรียล ไฮน์เซ่ (สำรอง) 6, จอห์น โอเชีย (สำรอง) 4, ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ (สำรอง) 6
Por